กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งช่วย 230 ลูกจ้าง บริษัท นิตพอยน์ จ.นครปฐม ถูกลอยแพหลังนายจ้างปิดกิจการ ยันสั่งติดตามค่าจ้างค้างจ่าย ค่าชดเชยโดยเร็ว พร้อมแจ้งสิทธิรับเงินกองทุนสงเคราะห์ ประสานหางาน ฝึกอาชีพ ดูแลสิทธิผู้ประกันตนประกันสังคม
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวถึงกรณีบริษัท นิตพอยน์ จำกัด จังหวัดนครปฐม ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 96 หมู่ที่ 3 ตำบลถนนขาด อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ประกอบกิจการตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ปิดกิจการและลอยแพลูกจ้าง 230 คน ว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครปฐม ดำเนินการให้การช่วยเหลือในการติดตามค่าจ้างค้างจ่ายและค่าชดเชยแก่ลูกจ้างแล้วตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยลูกจ้างจำนวน 182 คนได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครปฐมไว้แล้วพร้อมแต่งตั้งผู้แทนลูกจ้างจำนวน 4 คนเพื่อให้ข้อเท็จจริงในเรื่องนายจ้างค้างจ่ายค่าจ้างของลูกจ้าง ทั้งนี้ พนักงานตรวจแรงงานได้ชี้แจงข้อกฎหมายและขั้นตอนการดำเนินการ และการยื่นคำร้อง ตลอดจนชี้แจงสิทธิ การขอรับเงินกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ลูกจ้างด้วย อย่างไรก็ตาม กสร. จะเร่งประสานให้ลูกจ้างที่เหลือมายื่นคำร้องให้ครบถ้วน และได้สั่งการให้สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนครปฐม ติดตามให้ความช่วยเหลือลูกจ้างอย่างใกล้ชิด และเร่งดำเนินการเพื่อให้ลูกจ้างได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายโดยเร็ว
นายอภิญญา กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกจ้างในระยะยาว กสร.ได้ประสานกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานได้แก่ สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครปฐม สำนักงานจัดหางานจังหวัดนครปฐม และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 16 นครปฐม ในการชี้แจงสิทธิของลูกจ้าง ทั้งในเรื่องของการหาตำแหน่งงานว่าง การฝึกอาชีพ การดูแลสิทธิในฐานะผู้ประกันตนเพื่อดำเนินการจ่ายเงินทดแทนกรณีว่างงานอีกด้วย
ประเดิมหลักสูตรแรกของปีงบประมาณ 2563 กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดอบรม “กฎหมายแรงงานที่นายจ้าง-ลูกจ้างต้องรู้” อบรมฟรี ไม่มีค่าลงทะเบียน เริ่มรับสมัครออนไลน์ 11 พฤศจิกายน 2562 นี้ หวังให้นายจ้างลูกจ้างปฏิบัติต่อกันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อสร้างความสุขร่วมกัน
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า การพัฒนาทรัพยากรแรงงาน โดยการส่งเสริมสนับสนุนสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้เกิดทักษะในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ถือเป็นภารกิจที่กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานดำเนินการมาเป็นประจำทุกปี คือการให้บริการวิชาการ จัดอบรมให้ความรู้ในด้านต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 นี้ กสร. ประเดิมเปิดหลักสูตรแรกของปีคือ หลักสูตร “กฎหมายแรงงานที่นายจ้าง-ลูกจ้างต้องรู้” ซึ่งจะจัดอบรมในระหว่างวันที่ 27 – 29 พฤศจิกายน 2562 ทั้งนี้ หลักสูตรดังกล่าวถือเป็นหลักสูตรยอดนิยมซึ่งในปีที่ผ่าน ๆ มา มีผู้ให้ความสนใจสมัครเข้าอบรมเป็นจำนวนมาก เนื่องจากหลักสูตรดังกล่าวทำให้ทราบถึงสิทธิ หน้าที่ตามกฎหมายแรงงานของนายจ้างและลูกจ้างที่พึงปฏิบัติต่อกันและสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีความสุข โดยใช้เวลาในการอบรม 18 ชั่วโมง หรือ 3 วันทำการ และจะเปิดรับสมัครจำนวน 70 คน ตั้งแต่วันที่ 11 - 15 พฤศจิกายน 2562 หรือจนกว่าจะมีผู้สมัครเต็มอัตรา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สมัครออนไลน์ ได้ที่ http://tls.labour.go.th เมนูหลัก: ฝึกอบรมทรัพยากรแรงงาน
นายอภิญญา กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กสร. ได้เตรียมเปิดหลักสูตรฝึกอบรมอื่น ๆ ให้แก่นายจ้าง ลูกจ้างอีกมากมาย โดยสามารถติดตามรายละเอียดและความเคลื่อนไหวของหลักสูตรอื่นๆ ที่จะเปิดรับสมัครในปีงบประมาณ 2563 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรแรงงาน สำนักพัฒนามาตรฐานแรงงาน โทรศัพท์ 0 2245 1371-2 หรือเว็บไซต์ http://tls.labour.go.th เมนูหลัก: ฝึกอบรมทรัพยากรแรงงาน
รมว.แรงงาน ห่วงใยลูกจ้างบริษัท บอดี้ แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด สมุทรปราการ กว่า 300 คน สั่งหน่วยงานในสังกัดเร่งช่วยเหลือหลังรับคำร้อง นำลูกจ้างคุยนายจ้างทันที พร้อมสั่งเร่งรัดดำเนินการให้ลูกจ้างได้รับสิทธิตามกฎหมายโดยเร็ว
หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 62 ได้มีผู้แทนลูกจ้างบริษัท บอดี้ แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด จำนวนประมาณ 100 คน เดินทางมาที่กระทรวงแรงงานเพื่อยื่นร้องเรียนกรณีนายจ้างไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้ดำเนินการเปลี่ยนแปลงนายจ้างโดยโอนลูกจ้างของบริษัทฯ ไปเป็นพนักงานบริษัทบริลเลียนท์ อัลไลแอนซ์ ไทย โกลบอล จำกัด แต่มีลูกจ้างจำนวน 333 คน ไม่ประสงค์โอนย้ายไปเป็นลูกจ้างของนายจ้างรายใหม่ จึงยื่นหนังสือร้องเรียนต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานขอความช่วยเหลือให้บริษัท บอดี้ แฟชั่น (ประเทศไทย) จำกัด เลิกจ้างและจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน ทั้งนี้ ตนรู้สึกห่วงใยพี่น้องแรงงานทั้ง 333 คน ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการจ้างแรงงาน จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งดำเนินการไปพบนายจ้างและหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาทันที พร้อมทั้งให้กรมการจัดหางานจัดหาตำแหน่งงานว่างซึ่งมีตำแหน่งงานว่างในจังหวัดสมุทรปราการ 4,246 ตำแหน่ง และอีก 76,000 ตำแหน่งทั่วประเทศ กรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้การฝึกอาชีพให้กับลูกจ้างที่สนใจที่จะพัฒนาฝีมือแรงงานหรือเปลี่ยนอาชีพใหม่ และให้สำนักงานประกันสังคมดูแลในเรื่องสิทธิประโยชน์ในฐานะเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคมด้วย
นายสมบูรณ์ ตรัยศิลานันท์ รองอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวต่อว่า ทันทีที่ได้รับคำสั่งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้นำเจ้าหน้าที่พร้อมตัวแทนลูกจ้างลงพื้นที่เพื่อพบกับนายจ้าง ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งจากการพูดคุยนายจ้างได้แจ้งว่าได้เลิกจ้างลูกจ้างตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2562 และจะไม่จ่ายค่าชดเชยให้ลูกจ้าง โดยได้แจ้งเป็นหนังสือและส่งให้ลูกจ้างเป็นรายบุคคลเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม กสร. ได้ชี้แจงสิทธิตามกฎหมายและขั้นตอนในการใช้สิทธิเรียกร้องค่าชดเชยจากนายจ้างโดยลูกจ้างสามารถใช้สิทธิ ได้ 2 ช่องทาง คือ ยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงาน หรือยื่นคำฟ้องต่อศาลแรงงาน ซึ่งลูกจ้างประสงค์จะใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานในวันนี้ (31 ต.ค. 62) ซึ่งกสร. ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางไปร่วมกับพนักงานตรวจแรงงานของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรับคำร้องจากลูกจ้าง และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เร่งให้ดำเนินการวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด
กระทรวงแรงงาน ช่วยเหลือลูกจ้างบจก.เอเพ็กซ์ เซอร์คิต (ไทยแลนด์) 220 คนที่ถูกเลิกจ้างอย่างต่อเนื่องประสานสถานประกอบกิจการในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครจัดงานรองรับ 744 อัตรา พร้อมติดตามการได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายอย่างใกล้ชิด
นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการความช่วยเหลือลูกจ้างของบริษัท เอเพ็กซ์ เซอร์คิต (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ถูกเลิกจ้างว่า ตามที่หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล ได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้การช่วยเหลือลูกจ้างอย่างใกล้ชิดนั้น ซึ่งจากการที่พนักงานตรวจแรงงานลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริง พบว่า การเลิกจ้างดังกล่าวมีสาเหตุจากบริษัทฯ ประสบปัญหาขาดสภาพคล่องจึงได้ใช้มาตรการลดจำนวนการผลิต และเลิกจ้างลูกจ้างที่ไม่ผ่านการทดลองงาน ซึ่งบริษัทฯ มีระยะเวลาทดลองงาน 120 วัน มีลูกจ้างที่ทดลองงานจำนวน 329 คน ผ่านการทดลองงาน 109 คน โดยบริษัทฯได้มีการเลิกจ้างลูกจ้างไปแล้วเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2562 จำนวน 155 คน และเตรียมเลิกจ้างเพิ่มเติมอีก 65 คน รวม 220 คน ซึ่งการเลิกจ้างดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 3.56 จากลูกจ้างทั้งหมดของบริษัทที่มีจำนวน 6,185 คน ทั้งนี้ พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรสาครได้ชี้แจงสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายแก่นายจ้างลูกจ้างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะติดตามการจ่ายค่าจ้างและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าของนายจ้างให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือ แก่ลูกจ้างเพิ่มเติม กระทรวงแรงงานได้ประสานกับสถานประกอบกิจการในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครที่มีความประสงค์ จะรับพนักงานในเบื้องต้นมีสถานประกอบกิจการแจ้งความจำนงหลายแห่ง ประกอบด้วย บริษัท มารีนโกลด์โปรดักส์ จำกัด ประกอบกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ แจ้งความประสงค์จะรับลูกจ้าง เข้าทำงานจำนวน 300 อัตรา ตำแหน่งฝ่ายผลิต, บริษัท ยูนิคอร์ด จำกัด ประกอบกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ แจ้งความประสงค์รับลูกจ้างที่มีวุฒิการศึกษาตั้งแต่ ม.3 ขึ้นไป จำนวน 50 อัตรา ตำแหน่งตรวจสอบ และบริษัท แคล-คอมพ์ อิเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประกอบกิจการผลิตแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ประสงค์รับจำนวน 100 คน และยังมีบริษัทอื่นๆอีก 33 บริษัท ซึ่งมีความประสงค์รับลูกจ้าง จำนวน 294 อัตรา รวม 744 อัตรา ทั้งนี้ได้แจ้งให้ลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างทราบแล้ว
นายสุทธิ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ สถานประกอบกิจการที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมสินสาคร จำนวน 73 แห่ง จะร่วมกันหาแนวทางให้ความช่วยเหลือลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างด้วย โดยจะหาตำแหน่งงานว่างและรับสมัครงาน เพื่อให้ลูกจ้างได้มีงานทำและอยู่ในพื้นที่เดิม อย่างไรก็ตาม กระทรวงแรงงานจะติดตามให้ความช่วยเหลือลูกจ้างอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกจ้างได้รับการคุ้มครองและได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายต่อไป