วันพฤหัสบดีที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 7.30 น. นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงานเป็นประธานในพิธีตักบาตรประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และเนื่องในวันมาฆบูชา โดยมีผู้บริหารกระทรวงแรงงานและนายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พร้อมด้วยนางอุดม ลักษณ์สอนสารี รองอธิบดี นางโสภา เกียรตินิรชา รองอธิบดี ผู้บริหารกรม ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรมตักบาตร ณ บริเวณชั้นล่างอาคารกระทรวงแรงงาน
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2563
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้าข้าราชการและเจ้าหน้าที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการให้กำหนดวันหยุดให้ลูกจ้างในวันที่ 19-20 พฤศจิกายน และ 11 ธันวาคม 2563 ตามมติครม.เป็นกรณีพิเศษ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 กันยายน 2563 กำหนดให้วันพฤหัสบดีที่ 19 และวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2563 เป็นวันหยุด ราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ และให้เลื่อนวันหยุดชดเชยวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ จากเดิมคือวันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม 2563 เป็นวันศุกร์ที่ 11 ธันวาคม 2563 ซึ่งจะทำให้มีวันหยุดราชการต่อเนื่องกัน 4 วัน คือตั้งแต่วันที่ 19-22 พฤศจิกายน และวันที่ 10-13 ธันวาคม 2563 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศนั้น
นายอภิญญา กล่าวต่อไปว่า กสร.จึงขอความร่วมมือนายจ้าง สถานประกอบกิจการภาคเอกชน กำหนดให้วันที่ 19-20 พฤศจิกายน 2563 และวันที่ 11 ธันวาคม 2563 เป็นวันหยุดเป็นกรณีพิเศษ หรือจัดให้เป็นวันหยุดพักผ่อนประจำปีเพื่อให้ลูกจ้างได้มีวันหยุดต่อเนื่องและสามารถเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัด เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว ทั้งนี้ นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างในวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างด้วย หากนายจ้าง ลูกจ้าง มีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร ทั้ง 10 พื้นที่ หรือสายด่วน 1506 กด 3
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขานรับนโยบายรัฐบาล ช่วยผู้ว่างงานจากผลกระทบจากโรคโควิด-19 ใช้งบประมาณกว่า 4.8 ล้านบาท จัดโครงการจ้างงานระยะสั้นจ้าง 230 คนทั่วประเทศ รายได้ 10,500 บาท/เดือน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 อนุมัติมาตรการด้านงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เพื่อให้ส่วนราชการปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 หรือปรับเปลี่ยนเพื่อไปดำเนินการซึ่งก่อให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตรายย่อยรวมถึงการจ้างงาน ซึ่งจากข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 พบว่ามีสถานประกอบกิจการที่มีการแจ้งหยุดกิจการชั่วคราวตามมาตรา 75 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวน 4,599 แห่ง ลูกจ้างได้รับผลกระทบ 919,410 คน ดังนั้น เพื่อเป็นการสนองตอบนโยบายของรัฐบาลที่จะบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงได้จัดทำโครงการจ้างงานระยะสั้นแก่แรงงานที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด 19 เพื่อให้แรงงานกลุ่มนี้มีรายได้สามารถดูแลตนเองและครอบครัวในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว
อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า กสร. ได้ดำเนินการจ้างเหมาบริการแรงงานตามโครงการดังกล่าว จำนวน 230 คน ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในหน่วยงานส่วนกลาง จำนวน 40 คน ส่วนภูมิภาค 190 คน โดยได้จัดจ้างเป็นระยะเวลา 2 เดือน คือเดือนสิงหาคม-กันยายน 2563 และได้รับค่าจ้างเดือนละ 10,500 บาท รวมเป็นเงินงบประมาณทั้งสิ้น 4,830,000 บาท ซึ่งแรงงานที่ได้รับการจ้างในครั้งนี้จะปฏิบัติหน้าที่ประชาสัมพันธ์ภารกิจและการดำเนินงานของกรม ให้คำปรึกษา แนะนำนายจ้าง ลูกจ้างเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย สำรวจข้อมูลสถานประกอบกิจการที่มีการเลิกจ้าง ทั้งนี้ กสร. มุ่งหวังว่าการจัดสรรงบประมาณสำหรับการจ้างงานระยะสั้นนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ประชาชนที่ว่างงานได้มีงานทำ มีรายได้สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวให้ผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้